Press Releases
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทย ฯพณฯ ภูมิธรรม เวชยชัย ร่วมเป็นแขกเกียรติยศในงานเฉลิมฉลองครบรอบ 76 ปี แห่งการประกาศอิสรภาพหรือวันชาติของศรีลังกา ณ สยามสมาคม ในพระบรมราชูปถัมภ์ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567
เอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทยและผู้แทนถาวรในเอสแคปกล่าวถ้อยแถลง ในการประชุมสุดยอดด้านนโยบายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 1 ณ กรุงนิวเดลี
เมื่อเร็วๆ นี้ ฯพณฯ วี เอ ชามินดา ไอ โคโลนเน่ เอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทยและผู้แทนถาวรในคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (United Nations Economic and Social Commission for Asia and the Pacific) (เอสแคป) ได้กล่าวถ้อยแถลงในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดด้านนโยบายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 1 ณ ศูนย์การประชุมด้านถิ่นที่อยู่ของพืชและสัตว์ของอินเดีย (India Habitat Centre) กรุงนิวเดลี ทั้งนี้ เป็นไปตามคำเชิญของสภาวิจัยด้านความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศของอินเดีย (Indian Council for Research on International Economic Relations) ซึ่งการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นโดยความร่วมมือของสภาวิจัยด้านความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศของอินเดียและคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียใต้และเอเชียตะวันตกเฉียงใต้
เอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทยทำหน้าที่ประธานสมัยประชุม ในระหว่างประชุมคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 80 และการเปิดตัวสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับความร่วมมือทางวิชาการ
ฯพณฯ ซี เอ ชามินดา ไอ โคโลนเน่ เอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทยและผู้แทนถาวรในคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (United Nations Economic and Social Commission for Asia and the Pacific) (เอสแคป) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนศรีลังกาเข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 80 ในระหว่างวันที่ 22-26 เมษายน 2567 ณ กรุงเทพฯ ซึ่งการประชุมครั้งนี้กำหนดหัวข้อของการประชุมคือ “การใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมทางด้านดิจิทัลเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (Leveraging digital innovation for sustainable development in Asia and the Pacific)” โดย ฯพณฯ ซี เอ ชามินดา ไอ โคโลนเน่ ได้รับคัดเลือกให้ทำหน้าที่รองประธานของการประชุมเอสแคป ครั้งที่ 80
ภายหลังการลงนาม ทำความตกลงทางการค้าระหว่างประเทศศรีลังกา – ประเทศไทย ศรีลังกา – ไทย (SLTFTA) เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567 ณ กรุงโคลัมโบ ได้สร้างยุทธศาสตร์ใหม่ในรูปแบบของความสัมพันธ์ทวิภาคีของศรีลังกา และไทย ท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ฯพณฯ ภูมิธรรม เวชยชัย ร่วมเป็นแขกผู้มีเกียรติในงานเฉลิมฉลองครบรอบ 76 ปีแห่งการประกาศอิสรภาพหรือวันชาติของศรีลังกาในกรุงเทพมหานคร โดยจัดขึ้นที่สยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งจัดโดยสถานทูตและคณะทูตผู้แทนถาวรศรีลังกาประจำประเทศไทย มีแขกเข้า
ร่วมงานกว่า 300 ท่าน รวมไปถึง ท่านรัฐมนตรี รัฐมนตรีช่วยว่าการ เอกอัครราชทูต สมาชิกคณะทูตานุทูต สมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกรัฐสภาแห่งชาติ สมาชิกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ สมาชิกกองทัพเรือ กองทัพอากาศ กองทัพบก ผู้แทนจากองค์การระหว่างประเทศ เจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวง จากหน่วยงานกรมต่างๆ ของรัฐบาลไทย องค์กรธุรกิจ มหาวิทยาลัย หน่วยงานอื่นๆ และชาวศรีลังกาที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ได้ร่วมเฉลิมฉลองงาน ตามคำเชิญของเอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำราชอาณาจักรไทยหรือผู้แทนถาวรของ UNESCAP นางชามินดา โคโลนเน่ และ คู่สมรส นาย สตีฟเฟ่น เสนานายาเก
พิธีการเริ่มจาก การจุดตะเกียงน้ำมันตามประเพณี มี ฯพณฯ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย เอกอัครราชทูตศรีลังกาหรือผู้แทนถาวรของ UNESCAP นางชามินดา โคโลนเน่ ได้เริ่มดำเนินจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองครบรอบ 76 ปี แห่งการประกาศเอกราชของศรีลังกาในกรุงเทพมหานคร จากนั้นได้ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีประจำราชอาณาจักรไทย ตามด้วยเพลงชาติศรีลังกาในภาษาสิงหลและภาษาทมิฬ ต่อมาได้ทำการสงบนิ่งเป็นเวลาสองนาที ความเงียบได้บังเกิดขึ้น เพื่อเป็นการรำลึกถึงทุกคนที่สละชีวิตเพื่อชาติ
ในระหว่างที่เอกอัครราชทูต ชามินดา โคโลนเน ได้กล่าวพิธีการต้อนรับ หนึ่งในนั้นมีใจความว่า ความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างศรีลังกา-ไทยมีระยะเวลายาวนานกว่า 7 ศตวรรษ โดยเริ่มจากการสานสัมพันธ์ด้วยเรื่องของพระพุทธศาสนาเถรวาท อีกทั้งจะมีพิธีประกาศตราสัญลักษณ์ฉลองครบรอบ 70 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทยอย่างเป็นทางการภายในปีหน้า พ.ศ. 2568 เพื่อเป็นการแสดงถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและมั่นคงระหว่างทั้งสองประเทศ เอกอัครราชทูต ชามินดา โคลอนเน กล่าวเพิ่มเติมว่า ท่านนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย ฯพณฯ เศรษฐา ทวีสิน ได้เป็นแขกเกียรติยศในงานเฉลิมฉลองครบรอบ 76 ปีการประกาศเอกราชของศรีลังกา ณ กรุงโคลัมโบ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ตามคำเชิญของท่านประธานาธิบดี รานิล วิกรมสิงเห แห่งศรีลังกา และเพื่อจักเป็นสักขีพยานแห่งความสำคัญในประวัติศาสตร์ของการลงนาม ทำความตกลงทางการค้าระหว่างประเทศศรีลังกา – ประเทศไทย (SLTFTA) ที่กรุงโคลัมโบ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567 เอกอัครราชทูตยังกล่าวด้วยว่า ข้อตกลงทวิภาคีด้านการขนส่งทางอากาศ เมื่อปี 2493 ได้รับการต่อสัญญาแล้ว และบันทึกความเข้าใจหรือ MOU ระหว่างสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งศรีลังกาและสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งช าติแห่งประเทศไทย ยังได้ข้อสรุปเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ที่กรุงโคลัมโบ เช่นกัน
ท่านเอกอัครราชทูตได้ถ่ายทอดข้อความวันประกาศอิสรภาพจาก ประธานาธิบดีรานิล วิกรมสิงเห ท่านนายกรัฐมนตรี ดิเนช กุนาวาร์เดนา และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ อาลี ซาบรี แห่งศรีลังกา
จากนั้นเอกอัครราชทูต ชามินดา โคโลนเน ได้ทำการดื่มอวยพร เพื่อขอให้สุขภาพพลานามัยและความสุขของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นไปอย่างเจริญรุ่งเรืองสืบเนื่องไปจนถึงรัฐบาลและประชาชนแห่งราชอาณาจักรไทย ในภายภาคหน้ายังเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์อันมั่นคงที่สืบต่อกันมายาวนาน ความสัมพันธ์อันดีระหว่างศรีลังกาและราชอาณาจักรไทย
ในระหว่างการกล่าวปาฐกถาพิเศษของ ฯพณฯ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ใจความตอนหนึ่ง“ประเทศไทยและศรีลังกามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและใกล้ชิดในทุกระดับจากฐานความเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์และวัฒน ธรรมที่เรามีร่วมกัน โดยเฉพาะในด้านพุทธศาสนานิกายเถรวาท ในด้านความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ศรีลังกาถือเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยในเอเชียใต้ ด้วยที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์มีทางสี่แยกเป็นเส้นทางเดินเรือหลักในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเชื่อมต่อกับเอเชียใต้ แอฟริกา และยุโรป ศรีลังกาจึงเป็นประเทศที่มีศักยภาพในทางธุรกิจเป็นอย่างมาก”
ปีที่แล้วสองพันยี่สิบสาม (2023) การค้าทวิภาคีระหว่างไทยและศรีลังกามีมูลค่าสี่ร้อยสิบห้าล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละสิบหก (16%) จากปีก่อนหน้านี้ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของเราทั้งสองมีความใกล้ชิดและจับต้องได้มากขึ้นหลังจากการสรุปผลและการลงนามเขตการค้าเสรี ระหว่างไทยและศรีลังกาที่กรุงโคลัมโบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ข้าพเจ้าได้เดินทางร่วมกับท่านนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสินในระหว่างการเยือนศรีลังกาอย่างเป็นทางการในฐานะแขกผู้มีเกียรติเพื่อเข้าร่วมการเฉลิมฉลองวันประกาศอิสรภาพปีที่ 76ของศรีลังกา ซึ่งข้าพเจ้าได้เห็นถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วของประเทศศรีลังกาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาและรายได้จากการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น รวมถึงค่าเงินและอัตราเงินเฟ้อที่มีเสถียรภาพ
ดังนั้นข้าพเจ้าจึงขอชื่นชมรัฐบาลศรีลังกาถึงผลลัพธ์อันน่าประทับใจนี้ ซึ่งข้าพเจ้ามั่นใจว่าศรีลังกาจะสามารถบรรลุผลสำเร็จศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจที่แท้จริงโดยเร็วที่สุด
ในระหว่างการเยือน ข้าพเจ้าและฯพณฯ นลิน เฟอร์นันโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า การพาณิชย์ และความมั่นคงด้านอาหารของศรีลังกายังได้ลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยและศรีลังกา ซึ่งเป็นเขตการค้าเสรีลำดับที่ 15 ของไทยในกรุงโคลัมโบ ข้าพเจ้ามั่นใจอย่างยิ่งว่าเขตการค้าเสรีจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือทางการค้า การลงทุน และเศรษฐกิจของเราในปีต่อๆ ไป
อีกทั้งกระทรวงพาณิชย์ได้จัดการประชุมเครือข่ายธุรกิจศรีลังกา – ไทย “สำรวจโอกาสทางการตลาดเพื่อการค้าและการลงทุน” ที่กรุงโคลัมโบโดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการค้า พาณิชย์ และความมั่นคงด้านอาหารของศรีลังกา และ หอการค้าแห่งศรีลังกา ที่สำคัญงานประชุมเริ่มต้นการดำเนินโครงการนี้ ประสบความสำเร็จอย่างมากมีนักธุรกิจจำนวนมากจากทั้งศรีลังกาและไทยเข้าร่วม อีกทั้งยังบรรลุวัตถุประสงค์ในการเปิดโอกาสทางการค้าและการลงทุนแก่นักธุรกิจจากทั้งสองประเทศภายหลังการบรรลุข้อตกล ง FTA
ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความสัมพันธ์หรือปฏิสัมพันธ์ต่างๆและการแลกเปลี่ยนดังกล่าวจะเกิดขึ้นระหว่างเราทั้งสองประเทศ ต่อไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจทวิภาคีในระดับต่อไป ข้าพเจ้าเชื่อว่าสิ่งนี้จะนำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ประชาชนของทั้งสองประเทศของเรา”
หลังจากจบการกล่าว รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ฯพณฯ ภูมิธรรม เวชยชัย แห่งราชอาณาจักรไทย ได้ทำการดื่มอวยพร แด่ ฯพณฯ รานิล วิกรมสิงเห ประธานาธิบดีแห่งศรีลังกา จงนำพาความก้าวหน้าและความเจริญรุ่งเรืองไปสู่รัฐบาลและประชาชนชาวศรีลังกาและประเทศศรีลังกา ให้มีความยืนยาว ยั่งยืน รวมไปถึงความสัมพันธ์ทวิภาคี ระหว่างประเทศศรีลังกาและประเทศไทย สืบต่อไป
ปิดท้ายด้วยงานเลี้ยงรับรองอาหารค่ำซึ่งจัดโดยเอกอัครราชทูต นางชามินดา โคโลนเน่ และ คู่สมรส นาย สตีฟเฟ่น เสนานายาเก
ในช่วงเช้าของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567 เอกอัครราชทูตชามินดา โคโลนเน ได้ทำการชักธงชาติและประกอบพิธีทางศาสนาโดยมีพระสงฆ์ชาวพุทธ คริสเตียน ฮินดู และอิสลาม เป็นประธานในพิธี ณ บ้านพักของเอกอัครราชทูต
สถานเอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทย
ในกรุงเทพ ประเทศไทย
14.02.2024
เอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทยและผู้แทนถาวรในเอสแคปกล่าวถ้อยแถลง ในการประชุมสุดยอดด้านนโยบายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 1 ณ กรุงนิวเดลี
เมื่อเร็วๆ นี้ ฯพณฯ วี เอ ชามินดา ไอ โคโลนเน่ เอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทยและผู้แทนถาวรในคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (United Nations Economic and Social Commission for Asia and the Pacific) (เอสแคป) ได้กล่าวถ้อยแถลงในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดด้านนโยบายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 1 ณ ศูนย์การประชุมด้านถิ่นที่อยู่ของพืชและสัตว์ของอินเดีย (India Habitat Centre) กรุงนิวเดลี ทั้งนี้ เป็นไปตามคำเชิญของสภาวิจัยด้านความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศของอินเดีย (Indian Council for Research on International Economic Relations) ซึ่งการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นโดยความร่วมมือของสภาวิจัยด้านความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศของอินเดียและคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียใต้และเอเชียตะวันตกเฉียงใต้
เอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทยทำหน้าที่ประธานสมัยประชุม ในระหว่างประชุมคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 80 และการเปิดตัวสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับความร่วมมือทางวิชาการ
ฯพณฯ ซี เอ ชามินดา ไอ โคโลนเน่ เอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทยและผู้แทนถาวรในคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (United Nations Economic and Social Commission for Asia and the Pacific) (เอสแคป) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนศรีลังกาเข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 80 ในระหว่างวันที่ 22-26 เมษายน 2567 ณ กรุงเทพฯ ซึ่งการประชุมครั้งนี้กำหนดหัวข้อของการประชุมคือ “การใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมทางด้านดิจิทัลเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (Leveraging digital innovation for sustainable development in Asia and the Pacific)” โดย ฯพณฯ ซี เอ ชามินดา ไอ โคโลนเน่ ได้รับคัดเลือกให้ทำหน้าที่รองประธานของการประชุมเอสแคป ครั้งที่ 80