นางจมินทะ โกโลนเน เอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำกัมพูชา และนายสตีเฟน เสนาในเก คู่สมรส เข้าเฝ้าทูลละอองธุรีพระบาทกราบบังคมทูลลาเนื่องในโอกาสที่จะพ้นจากหน้าที่ต่อพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2567
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2567 เอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร และผู้แทนถาวรประจำคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (UNESCAP) นางจมินทะ โกโลนเน และคู่นายสตีเฟน เสนาในเก คู่สมรส ได้รับพระราชทานพระบรมราชวโรกาสอำลาตำแหน่งจากพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ณ พระราชวังหลวง กรุงพนมเปญ
สถานเอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรศรีลังกา โปรโมทผลิตภัณฑ์ศรีลังกาในงานกลุ่มบริษัทในเครือเจริญ โภคภัณฑ์ CP Global Sourcing Expo 2024
สำหรับการขยายตลาดสินค้าส่งออกของศรีลังกาไปยังประเทศไทย สถานเอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรศรีลังกาประจำกรุงเทพฯ ได้แนะนำสภาหัตถกรรมแห่งชาติของศรีลังกาและนักธุรกิจชั้นนำของศรีลังกาให้กับกลุ่มซีพี ซึ่งเป็นเจ้าของเครือข่ายค้าปลีกที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย เช่น โลตัส แม็คโคร และเซเว่นอีเลฟเว่น
ในการนำของผู้แทนศรีลังกา เอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทยและตัวแทนถาวร UNESCAP นางโกโลนเน อัปปุหามิลาเค จมินทะ อิโนกา โกโลนเน ถ่ายทอดความซาบซึ้งใจแก่คณะกรรมการนโยบายมหภาค การลดความยากจน การสรรหาเงินทุนเพื่อการพัฒนาของ UNESCAP เพื่อเอาชนะความท้าทายในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 และแสดงถึงการให้การสนับสนุนของศรีลังกาแก่การก่อตั้งกลุ่มที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ทางการเงินเพื่อเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมด้วยสมาชิกประเทศจีน ปุ่น ปากีสถาน ฝรั่งเศส และฟินแลนด์ ผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งศรีลังกา Ajith Nivard Cabraal จะประสานงานกับกลุ่มดังกล่าว
การกล่าวถึงใจความสำคัญในด้านพิเศษของงาน ‘การสนทนาระดับภูมิภาคด้านการสรรหาเงินทุนเพื่อการพัฒนา ทางการเงินอย่างยั่งยืน และการจัดการความเสี่ยงจากหนี้จากผลพวงการแพร่ระบาดโควิด19 ศักยภาพกลยุทธ์นวัตกรรมการเงินอย่างยั่งยืน’ผู้ว่า Cabraal กล่าวไว้ว่า “การลดการระแวดระวังของประเทศในช่วงการแพร่เชื้อระบาดระดับโลกเป็นการสร้างความวุ่นวาย และก่อให้เกิดจุดอ่อน และเพิ่มช่องโหว่ให้ประเทศโดยการลดมาตรการและการเตรียมการเข้าถึงทางการเงินที่ต่ำ” ผู้ว่า Cabraal ยังได้เน้นเรื่องความสำคัญของการเตรียมการสิทธิไถ่ถอนเงินโดย กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund – IMF) ในช่วงแรกๆของการระบาดของเชื้อไวรัส และได้อธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับหลักการใหม่ของศรีลังกาในการจัดการความเสี่ยงของหนี้ โดยการลดตลาดตราสารหนี้ การจัดหาเงินทุนใหม่ระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล และการนำสินทรัพย์ที่มีอยู่และบางครั้งไม่ได้ใช้ (Underutilized Assets) มาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นได้อย่างสร้างสรรค์
ขณะแถลงการณ์ประเทศ อธิบดีของกรมทรัพยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแห่งศรีลังกา Sampath Manthrinayake กล่าวว่าศรีลังกาสามารถรักษาความยั่งยืนของหนี้และการคลัง และขับเคลื่อนความยืดหยุ่นด้านการเติบโตและการจ้างงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมุ่งเป้าไปที่เศรษฐกิจสีเขียวและสีน้ำเงิน และเกษตรแบบใหม่ อนุญาตให้บริษัทท้องถิ่นที่มีประสิทธิภาพบูรณาการกลายเป็นเครือข่ายมูลค่าระดับสากล และบรรลุมูลค่าการผลิต ธุรกิจเชิงเกษตร และภาคส่วนงานบริการที่สูงขึ้น
อธิบดีของสภาการพัฒนาอย่างยั่งยืนแห่งศรีลังกา Chamindry Saparamadu ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากร Samantha Bandara เลขานุการเอกและรองผู้แทนถาวร Saritha Ranatunga เป็นสมาชิกคณะผู้แทนจากศรีลังกา
สถานเอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรศรีลังกา
ในกรุงเทพ ประเทศไทย
27 ตุลาคม 2564